ประโยชน์และสรรพคุณของมะลิ

ประโยชน์และสรรพคุณของมะลิ
มะลิ (Jasmine, Karnpopot, Arabian Jasmine) เป็นพืชสมุนไพรประเภทไม้พุ่ม ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆ เช่น ภาคเหนือเรียกมะลิป้อม ส่วนชาวละว้าเรียกเตียมูน และชาวฉาน-แม่ฮ่องสอนเรียก ข้าวแตก หรือมะลิกา ส่วนจังหวัดเชียงใหม่เรียกมะลิขี้ไก่ และชาวจีนเรียกเซี่ยวหน่ำเคี้ยง หรือบักหลีฮวย เป็นต้น โดยต้นมะลินั้นมีแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ คาบสมุทรอาระเบีย หรืออินเดีย เป็นต้น ซึ่งมีทั้งความสวยงามและส่งกลิ่นหอม

ลักษณะทั่วไปของมะลิ
สำหรับมะลินั้นจัดเป็นพืชไม้พุ่มที่มีขนาดเล็กถึงกลาง โดยมีความสูงของลำต้นประมาณ 5 ฟุต มีใบหนาแน่น สามารถขยายพันธุ์โดยวิธีการปักชำหรือตอนกิ่งในดินที่ร่วนซุย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนจะเจริญเติบโตได้ดี ส่วนใบนั้นจะเป็นรูปทรงรี หรือไข่ ออกแบบเรียงตรงข้ามกัน มีใบประกอบแบบขนนก โคนใบมนสอบเข้าหากัน ปลายแหลม ขอบเรียบ ส่วนดอกของมะลินั้นจะมีสีขาวกลิ่นหอม มักออกอยู่ตามบริเวณซอกใบและปลายกิ่ง ซึ่งจะมีทั้งลักษณะที่ออกซ้อนและไม่ซ้อนกันอยู่ และผลนั้นจะเป็นผลสด

ประโยชน์และสรรพคุณของมะลิ
ใบสด – สามารถนำมาตำกับกากมะพร้าวก้นกะลานำมาทาหรือพอกช่วยแก้อาการแผลพุพอง หรือแก้พิษฝีดาษ รวมทั้งแก้อาการแผลเรื้อรัง และสามารถใช้ยอด 3 ยอด นำมาตำเพื่อทาลบรอยแผลเป็นได้ ให้รสเย็นฝาด

ดอก – ช่วยดับพิษร้อน บำรุงหัวใจ และทำให้จิตใจชุ่มชื่น ตลอดจนช่วยแก้อาการไข้ บำรุงครรภ์ แก้อาการเจ็บตา และช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ให้รสหอมเย็นขม

เถา – ช่วยในการขับเสมหะและโลหิต รวมทั้งแก้อาการคุดทะราด ให้รสขื่นเย็น

ราก – นำมาเพียงเล็กน้อยแล้วฝนหรือต้มใช้ดื่มแก้อาการปวดศีรษะ หรือแก้หลอดลมอักเสบ รวมทั้งโรคเลือดออกตามไรฟัน และหากใช้มากสามารถทำให้สลบ ใช้ตำเพื่อทาหรือพอกกแก้อาการเคล็ดขัดยอก ให้รสเย็นเมา

ซึ่งนอกจากการนำดอกมะลิมาปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือนแล้ว ดอกมะลิยังจัดเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันแม่แห่งชาติอีกด้วย รวมทั้งเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังนิยมนำมาร้อยเป็นพวงมาลัยเพื่อไหว้พระอีกด้วย






ประโยชน์และสรรพคุณของมะลิ ประโยชน์และสรรพคุณของมะลิ Reviewed by Ps nackisaiah on พฤษภาคม 02, 2562 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

รูปภาพธีมโดย -ASI-. ขับเคลื่อนโดย Blogger.